ไม่รู้ว่าสาวกคนรักความเร็วจะติดใจกับเกมขับรถแนวไหนกันบ้าง ? ขับแบบทางเรียบ, ทางวิบาก หรือว่าการชนกันแบบแหลกราญ โดยแต่ละเกมก็ล้วนมีรายละเอียดที่ชวนเล่นแตกต่างกันไป ซึ่งนั่นก็เป็นความชอบส่วนบุคคล แต่ว่าเกม Overdrive City เนี่ย เป็นอีกเกมหนึ่งที่มีรายละเอียดในการแต่งรถเยอะมาก ๆ ถ้าใครที่ชอบการตกแต่งรถอยู่แล้วน่าจะถูกใจ ยิ่งบวกกับการแสดงผลที่สวยงามสมจริงตามสไตล์ค่าย Gameloft ด้วยแล้วก็ยิ่งน่าสนใจใหญ่ เดี๋ยวไปดูกันว่ามันทำอะไรได้บ้าง
ระบบ Gameplay
เปิดฉากด้วยภาพรถแข่งสุดสวยงาม พร้อมกับการกรอกข้อมูลต่าง ๆ เช่น อายุกับเพศ ซึ่งเราจะให้ข้อมูลจริงหรือไม่ก็ได้ จากนั้นเราจะได้เจอกับผู้แนะนำอย่าง Gwen ที่จะมาสอนวิธีเล่นตามขั้นตอนให้กับเรา เมื่อจบ Dialog เราจะได้ตั้งชื่อสนามของตัวเอง ซึ่งนี่แหละที่ Overdrive City แตกต่างจากเกมอื่น เพราะส่วนใหญ่การตั้งชื่ออะไรแบบนี้มักจะต้องเล่นให้ถึง Level ที่ตัวเกมนั้น ๆ กำหนดมาก่อนถึงจะทำได้ แต่เกมนี้สามารถทำได้ตั้งแต่แรกเลย แถมยังเลือกสร้าง Logo ประจำสนามได้ทั้งสี และลวดลายตามใจอีกต่างหาก แค่ Logo อย่างเดียวก็ใช้เวลาแต่งไปนานแล้ว
หลังจากเลือกเสร็จทีนี้เราจะไปดูกันในส่วนของโรงเก็บรถ ซึ่งมีหลายรุ่นมาก ๆ แต่ในตอนแรกของเกม Overdrive City เราจะได้รับรถ Volkswagen Jetta มาลงแข่งก่อน เมื่อเล่นถึง Level ที่กำหนดก็จะได้รับการปลดล็อกรุ่นใหม่เพิ่มเข้ามา ซึ่งความสนุกมันอยู่ตรงนี้แหละ พอเราเลือกรถได้แล้วเราสามารถปรับแต่งได้หลายส่วนเลยทั้งสีที่เลือกได้ 3 แบบ คือ Standard, Matte และ Metallic แถมยังปรับแสงเงาได้ด้วย และนั่นยังไม่พอเรายังสามารถแต่งลวดลายต่าง ๆ เช่น วงกลม หรือตัวเลขบนรถเพื่อไม่ให้เหมือนใครได้อีกด้วย
จบไปในส่วนของการปรับแต่ง ทีนี้ก็มาต่อกันในส่วนของการแข่งกันบ้าง โดยการลงสนามครั้งแรกของ Overdrive City ก็จะเป็นเงื่อนไขแบบง่าย ๆ เช่น การวิ่งรอบสั้น ๆ เข้าเส้นชัย แต่ว่าก็ต้องฝึกการควบคุมให้ชินมือ โดยการเคลื่อนที่จะใช้ Space bar ร่วมกับ Mouse ส่วนการเบรกก็คือ การปล่อยทั้งสองสิ่งนั่นเอง และเมื่อเราทำภารกิจสำเร็จตัวเกมก็จะแสดงข้อมูลการทำเวลา พร้อมกับเงินรางวัลที่จะได้รับ ซึ่งถ้าเข้าสู่ Level ที่สูงขึ้นภารกิจก็จะยากขึ้น ดังนั้น การเก็บเงินไว้สำหรับอัพเกรด หรือซื้อรถรุ่นใหม่ ๆ ก็จะเป็นตัวช่วยให้ผ่านได้ง่ายขึ้น
วิดีโอ Overdrive City ที่น่าสนใจ :
#เกม Overdrive City #เกมแข่งรถสุดมันส์ #เกมแข่งรถสมจริง
